ติดกล้องวงจรปิดอย่างไร ไม่ให้สุ่มเสี่ยง PDPA
- Padchaya Vodnork
- 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที

คุณทราบหรือไม่ว่า ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งจาก กล้องวงจรปิด ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ท่าทางการเดิน หรือแม้แต่ป้ายทะเบียนรถ ถือเป็น "ข้อมูลส่วนบุคคล" (Personal Data) ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA?
นั่นหมายความว่า ทันทีที่เราตัดสินใจ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ไม่ว่าจะในบ้านที่มีบริเวณสาธารณะเกี่ยวข้อง หรือในสถานประกอบการ เราจะมีสถานะเป็น "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)" ทันที ซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบตามที่กฎหมายกำหนด การ ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ใช่แค่การเลือกมุมกล้องและความคมชัดอีกต่อไป แต่ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นด้วย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งระบบ cctv บทความนี้จะสรุปแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย มาในรูปแบบ Checklist ที่เจ้าของบ้านและผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที เพื่อให้ระบบความปลอดภัยของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่สร้างความสุ่มเสี่ยงทางกฎหมาย
PDPA คืออะไร และเกี่ยวข้องกับกล้องวงจรปิดอย่างไร?
PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 คือกฎหมายที่มีขึ้นเพื่อป้องกันการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
สาเหตุที่ cctv เกี่ยวข้องโดยตรงกับกฎหมายนี้ ก็เพราะภาพที่บันทึกได้นั้น สามารถใช้ระบุตัวตนของบุคคล (เจ้าของข้อมูล) ที่ผ่านไปมาได้ การกระทำใดๆ กับข้อมูลนี้จึงต้องมีฐานทางกฎหมายรองรับ
สำหรับบริบทของการ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ฐานทางกฎหมายที่มักใช้อ้างอิงมากที่สุดคือ "ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)" ซึ่งหมายถึง เรามีสิทธิ์ติดตั้ง กล้องวงจรปิด เพื่อปกป้องประโยชน์ที่จำเป็นของเรา เช่น การป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ และการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินจากการโจรกรรมหรือเหตุร้าย โดยต้องไม่ไปละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้อื่นมากจนเกินไป
Checklist 5 ข้อต้องทำ! ติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ถูกต้องตามกฎหมาย PDPA
นี่คือหัวใจสำคัญที่ผู้ติดตั้ง กล้องวงจรปิด ทุกคนต้องตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบของคุณสอดคล้องกับ PDPA
1. จัดให้มีป้ายแจ้งเตือนที่มองเห็นได้ง่าย
สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้คือความโปร่งใส เราต้องแจ้งให้บุคคลอื่นทราบว่าพื้นที่นี้มีการบันทึกภาพ ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้ามาในบริเวณดังกล่าว
สิ่งที่ต้องทำคือ จัดทำป้ายแจ้งเตือนการบันทึกภาพด้วย กล้องวงจรปิด โดยติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายและชัดเจน เช่น บริเวณทางเข้า-ออกทุกจุด หรือในพื้นที่ที่มีการติดตั้งกล้อง
ในป้ายแจ้งเตือนนั้น ควรมีรายละเอียดสำคัญ ได้แก่ สัญลักษณ์ว่ามี cctv ทำงานอยู่, ข้อความแจ้งเตือน, วัตถุประสงค์ของการติดตั้ง (เช่น เพื่อความปลอดภัย), และข้อมูลติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล (เช่น เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลผู้รับผิดชอบ) สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ อาจใช้ QR Code เพื่อสแกนไปยังนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ฉบับเต็ม

2. ระบุวัตถุประสงค์การใช้งานให้แน่ชัด
ก่อนการติดตั้ง เราต้องตอบตัวเองให้ชัดเจนว่าติดตั้ง cctv ไป "เพื่ออะไร" และต้องยึดถือวัตถุประสงค์นั้นอย่างเคร่งครัด
สิ่งที่ควรทำคือ ระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและจำเป็น เช่น "เพื่อป้องกันและระงับเหตุอาชญากรรม และเพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินภายในบริเวณ"
สิ่งที่ไม่ควรทำ คือการนำภาพไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ (Purpose Creep) เช่น แจ้งว่าติดเพื่อความปลอดภัย แต่กลับนำภาพไปใช้สอดส่องพฤติกรรมส่วนตัวของพนักงาน หรือใช้จับผิดการทำงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ถือเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ
3. กำหนดสิทธิ์และจำกัดผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
ไม่ใช่ทุกคนที่ควรจะดูภาพจาก กล้องวงจรปิด ได้ ข้อมูลที่บันทึกไว้ถือเป็นข้อมูลอ่อนไหวที่ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด
เราต้องกำหนดตัวบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่บันทึกไว้ได้เท่านั้น เช่น เจ้าของบ้าน, ผู้จัดการอาคาร, หรือฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ได้รับมอบหมาย เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและการนำไปใช้ในทางที่ผิด ในระดับองค์กร ควรมีการทำบันทึกการเข้าถึงข้อมูล (Access Log) ไว้ด้วยว่าใคร เข้ามาดูข้อมูลเมื่อใด ด้วยเหตุผลอะไร
4. กำหนดระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสม
PDPA ไม่อนุญาตให้เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตลอดไป เราต้องเก็บเท่าที่ "จำเป็น" ตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
โดยทั่วไป ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บฟุตเทจ cctv คือประมาณ 30-60 วัน หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ระยะเวลานี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลัง
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว จะต้องมีกระบวนการทำลายหรือลบข้อมูลนั้นออกจากระบบจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย ซึ่งในทางปฏิบัติ ระบบ กล้องวงจรปิด สมัยใหม่ส่วนใหญ่สามารถตั้งค่าให้บันทึกทับของเก่า (Loop Recording) โดยอัตโนมัติเมื่อพื้นที่จัดเก็บเต็ม ซึ่งถือเป็นวิธีปฏิบัติที่ยอมรับได้
พื้นที่ต้องห้าม จุดที่ไม่ควรติดตั้งกล้องวงจรปิดเด็ดขาด
แม้ว่าเราจะมีประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายในการติดตั้ง กล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัย แต่สิทธินั้นไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในจุดที่บุคคลมีความคาดหวังถึงความเป็นส่วนตัวอย่างสูง (Reasonable Expectation of Privacy) การ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ในพื้นที่เหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรงและไม่สามารถทำได้ ได้แก่
ห้องน้ำ
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือ ห้องลองเสื้อ
ห้องอาบน้ำ
ห้องพักส่วนตัวของพนักงาน (ที่ไม่ใช่พื้นที่ทำงานส่วนกลาง)
นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังเพิ่มเติมในการกำหนดมุมกล้อง โดยต้องพยายามไม่ให้มุมกล้องหันไปละเมิดพื้นที่ส่วนตัวของเพื่อนบ้านโดยไม่จำเป็น เช่น การหันกล้องส่องเข้าไปในหน้าต่างห้องนอน หรือภายในรั้วบ้านของผู้อื่น

คำถามที่พบบ่อย
1. ติดกล้องวงจรปิดภายในบ้านของตัวเอง ต้องติดป้ายแจ้งเตือนหรือไม่?
หากเป็นการติดตั้งภายในตัวบ้าน เพื่อการใช้งานส่วนตัว (Personal Use) และไม่ได้บันทึกภาพพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ของบุคคลอื่น (เช่น ไม่ได้หันกล้องออกไปนอกถนน หรือส่องไปบ้านเพื่อนบ้าน) มักจะได้รับการยกเว้นตาม PDPA ไม่จำเป็นต้องติดป้ายแจ้งเตือน แต่หากกล้องตัวใดตัวหนึ่งหันออกไปจับภาพพื้นที่สาธารณะหน้าบ้านหรือทางเดินส่วนกลาง ก็ควรติดป้ายแจ้งเตือนไว้เพื่อความชัดเจน
2. หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอข้อมูลจากกล้องวงจรปิด สามารถให้ได้เลยหรือไม่?
การให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อการสืบสวนสอบสวน ถือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งสามารถทำได้ แต่ควรมีการทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ขอให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือราชการมาขอข้อมูล หรือลงบันทึกประจำวัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าเราได้เปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งของเจ้าพนักงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ไม่ได้นำข้อมูลไปเผยแพร่โดยพลการ
3. การบันทึก "เสียง" ด้วยกล้องวงจรปิด ผิดกฎหมาย PDPA หรือไม่?
การบันทึกเสียงถือเป็นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวและมีการล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวสูงกว่าการบันทึกภาพมาก หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด (เช่น ในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดและได้แจ้งเตือนแล้ว) ไม่แนะนำให้เปิดฟังก์ชันบันทึกเสียง การบันทึกเสียงการสนทนาของผู้อื่นโดยที่เขาไม่ยินยอม อาจสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก PDPA ด้วย โดยทั่วไป การติดตั้ง cctv เพื่อความปลอดภัย ควรเน้นที่การบันทึก "ภาพ" เป็นหลัก
สรุป
การปฏิบัติตามแนวทาง PDPA สำหรับ กล้องวงจรปิด ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่หลายคนกังวล แต่เป็นเรื่องของความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น เพียงแค่คุณ "ติดป้ายแจ้งเตือน, ระบุวัตถุประสงค์ชัดเจน, จำกัดการเข้าถึง และกำหนดระยะเวลาจัดเก็บ" พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการติดตั้งในพื้นที่ส่วนตัวสูง คุณก็สามารถลดความเสี่ยงทางกฎหมายไปได้มากแล้ว
การ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องทรัพย์สินของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นการสร้างความไว้วางใจและแสดงความเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของทุกคนที่อยู่ในพื้นที่นั้นอีกด้วย
หากคุณกำลังมองหากล้องวงจรปิดที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย Lighting Solution ขอแนะนำ กล้องวงจรปิดไร้สาย แบรนด์ Dahua ที่ออกแบบมาเพื่อการติดตั้งและใช้งานที่ง่ายดาย เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น บ้านพักอาศัยและร้านค้าปลีกขนาดเล็ก โดยผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ กล้องวงจรปิดไร้สาย dahua ได้ที่ Facebook Lighting Solution Thailand หรือทางเว็บไซต์ lightingsolution.co.th


