ลิฟต์บ้านใช้พื้นที่แค่ไหน? คำนวณพื้นที่ติดตั้งจริงก่อนตัดสินใจ
- Padchaya Vodnork
- 13 นาทีที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

"บ้านของเรามีพื้นที่พอที่จะติดตั้ง ลิฟต์บ้าน ได้จริงหรือ?" นี่คือคำถามแรกและคำถามที่ใหญ่ที่สุดที่หลายครอบครัวต้องเผชิญเมื่อคิดจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับที่อยู่อาศัย แต่ในความเป็นจริง เทคโนโลยี ลิฟท์บ้าน ในปัจจุบันได้พัฒนาไปไกลมาก ทำให้ ลิฟท์ รุ่นใหม่ๆ มีขนาดกะทัดรัดอย่างน่าทึ่ง และใช้พื้นที่น้อยกว่าที่หลายคนจินตนาการไว้
ขนาดมาตรฐานของลิฟต์บ้านเป็นอย่างไร?
ก่อนจะลงลึกในรายละเอียดทางเทคนิค เรามาดูภาพรวมของขนาดมาตรฐานที่พบได้บ่อย เพื่อให้คุณประเมินความเป็นไปได้ในทันที
ลิฟต์ขนาดเล็ก (สำหรับ 2-3 คน)
ขนาดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัวในบ้านที่มีสมาชิกน้อย หรือเน้นการเคลื่อนย้ายระหว่างชั้นเป็นหลัก โดยทั่วไปจะต้องการพื้นที่หน้าตัด (Footprint) ประมาณ 1.2 x 1.2 เมตร หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็คือใช้พื้นที่ใกล้เคียงกับห้องน้ำขนาดเล็ก หรือตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in closet ขนาดกะทัดรัดเท่านั้น
ลิฟต์ขนาดกลาง (รองรับรถเข็นวีลแชร์)
นี่คือขนาดที่แนะนำสำหรับการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) เพื่อรองรับผู้สูงอายุ ผู้ใช้งานรถเข็นวีลแชร์ หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กต้องใช้รถเข็นเด็ก ขนาดพื้นที่หน้าตัดที่ต้องการจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร ซึ่งขนาดที่ใหญ่ขึ้นนี้ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขนของหรือกระเป๋าเดินทางหนักๆ ขึ้นลงระหว่างชั้นอีกด้วย
เจาะลึก 4 ปัจจัยเชิงเทคนิคในการวัดพื้นที่ติดตั้งลิฟต์
เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้ว ต่อไปคือการทำความเข้าใจ 4 ส่วนประกอบสำคัญที่จะกำหนดว่าบ้านของคุณพร้อมสำหรับการติดตั้งหรือไม่
1. ปล่องลิฟต์ (Shaft)
พื้นที่หลักในแนวตั้ง นี่คือช่องในแนวตั้งที่ตัว ลิฟท์ (Cabin) จะเคลื่อนที่ขึ้น-ลง ซึ่งก็คือพื้นที่หน้าตัด (กว้าง x ลึก) ที่เราพูดถึงไปในส่วนแรกนั่นเอง โดยในปัจจุบันมีทั้งปล่องแบบก่ออิฐฉาบปูนที่สร้างขึ้นใหม่ หรือปล่อง ลิฟท์ แบบสำเร็จรูป (โครงสร้างเหล็กหรือกระจก) ที่มาพร้อมกับตัว ลิฟต์บ้าน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากหน้างานได้มาก
2. บ่อลิฟต์ (Pit)
ความลึกที่ฐานล่างสุด ส่วนนี้คือพื้นที่ที่ถูกขุดลึกลงไปจากระดับพื้นชั้นล่างสุด เพื่อรองรับโครงสร้างส่วนฐานของ ลิฟท์ และเป็นระยะปลอดภัย (Safety Buffer) ความลึกที่ต้องการนั้นหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับระบบ เช่น ลิฟต์ระบบสกรู (Screw Drive) สมัยใหม่ อาจต้องการบ่อตื้นมากเพียง 10-15 เซนติเมตร และจุดเด่นสำคัญคือ ลิฟต์บ้าน บางรุ่นในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องมีบ่อลิฟต์เลย ทำให้สามารถติดตั้งบนพื้นเดิมได้ทันที เหมาะอย่างยิ่งกับการรีโนเวทบ้านเก่า

3. ระยะเหนือศีรษะ (Overhead)
พื้นที่ว่างเหนือชั้นบนสุด นี่คือระยะความสูงที่วัดจากพื้นของชั้นบนสุดที่ ลิฟท์ จอด ไปจนถึงเพดานของปล่องลิฟต์ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับตัวลิฟต์และอุปกรณ์ส่วนบน โดยทั่วไปต้องการความสูงประมาณ 2,200 - 2,500 มิลลิเมตร (2.2 - 2.5 เมตร) ซึ่งมักจะเทียบเท่ากับความสูงเพดานมาตรฐานของบ้านส่วนใหญ่อยู่แล้ว
4. ห้องเครื่อง (Machine Room)
หัวใจในการขับเคลื่อน ในอดีต ลิฟท์ จำเป็นต้องมีห้องแยกสำหรับวางตู้ควบคุมและมอเตอร์ขับเคลื่อน ทำให้เสียพื้นที่ใช้สอยไปหนึ่งห้อง แต่ปัจจุบันนี่คือมาตรฐานใหม่ของ ลิฟต์บ้าน นั่นคือระบบแบบไม่มีห้องเครื่อง (Machine Room-Less - MRL) ที่วิศวกรได้ออกแบบให้มอเตอร์และแผงควบคุมมีขนาดกะทัดรัดและสามารถติดตั้งไว้ภายในปล่อง ลิฟท์ ได้เลย การเลือกลิฟต์บ้านแบบ MRL คือวิธีที่ดีที่สุดในการประหยัดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน
สรุป
จะเห็นได้ว่าพื้นที่ที่ต้องใช้ในการติดตั้ง ลิฟต์บ้าน นั้นขึ้นอยู่กับ "ระบบ" และ "ขนาด" ที่คุณเลือก แต่ด้วยเทคโนโลยี MRL (ไม่ใช้ห้องเครื่อง) และตัวเลือกแบบไม่ต้องขุดบ่อลิฟต์ ทำให้การติดตั้ง ลิฟท์ ในบ้านที่มีอยู่เดิม กลายเป็นเรื่องที่ง่ายและเป็นไปได้มากกว่าที่เคย

เติมเต็มบ้านให้สมบูรณ์แบบ ด้วย ลิฟต์บ้าน enta villa จาก TK Elevator อีกหนึ่งโซลูชันลิฟท์ในบ้านที่ทาง Lighting Solution เลือกสรรมาเพื่อ "บ้านในฝัน" ของคุณ ด้วยนวัตกรรมการติดตั้งแบบไร้ห้องเครื่อง ใช้พื้นที่น้อย ช่วยให้มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้มากขึ้นกว่าเดิม พร้อมออกแบบตามมาตรฐานเยอรมัน ติดตั้งง่าย ทำงานด้วยไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ต้องเดินสายเพิ่ม ดีไซน์ห้องโดยสารหลากหลายสไตล์ ตอบโจทย์การแต่งบ้านทุกรูปแบบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook Lighting Solution Thailand หรือทางเว็บไซต์ lightingsolution.co.th


